กระตุ้นธุรกิจอาหารสัตว์และสุขภาพสัตว์ไตรมาสแรกของปี กับงาน “VICTAM Asia and Health & Nutrition Asia 2024” พร้อมแสดงนวัตกรรมสุดยิ่งใหญ่บนภูมิภาคเอเชียแล้ววันนี้!
วิคแทม คอร์ปอเรชั่น ผสานความร่วมมืออีกครั้งกับ กลุ่มบริษัท วีเอ็นยูฯ
เพื่อจัดงาน VICTAM Asia (วิคแทม เอเชีย), Health & Nutrition Asia (เฮลท์ แอนด์ นิวทริชัน เอเชีย),
และ GRAPAS Asia (กราปาส เอเชีย) โดยงานแสดงสินค้าชั้นนำดังกล่าวนับเป็นแพลตฟอร์มที่สำคัญสำหรับอุตสาหกรรมปศุสัตว์ สุขภาพสัตว์ โภชนาการสัตว์ และการแปรรูปฯ อย่างครบวงจร
โดยงานจัดขึ้นระหว่างวันที่ 12-14 มีนาคม 2567 ณ ฮอลล์ 100-102 ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค กรุงเทพฯ
พร้อมต้อนรับผู้เข้าชมงานที่ลงทะเบียนกันมาอย่างคับคั่งเพื่อจับคู่ธุรกิจกับผู้จัดแสดงสินค้ากว่า 250 บริษัทชั้นนำ ที่นำเสนอนวัตกรรมและสินค้าล่าสุดภายในงาน นับเป็นโอกาสสำคัญเนื่องจากปัจจุบันอุตสาหกรรมปศุสัตว์ สุขภาพสัตว์ โภชนาการสัตว์ และการแปรรูปฯ กำลังขยายตัวอย่างรวดเร็วในภูมิภาคเอเชีย นอกจากนี้ยังสามารถสร้างเครือข่ายกับผู้เชี่ยวชาญ
อัปเดตข้อมูลเชิงลึก แนวโน้มอุตสาหกรรม จากวิทยากรระดับโลก ผ่านงานประชุมสัมมนาทางเทคนิคที่จัดขึ้นพร้อมกัน
Mr. Sebas van den Ende ผู้จัดการทั่วไป บริษัท วิคแทม คอร์ปอเรชั่น ผู้จัดงาน VICTAM Asia กล่าวว่า “ในการจัดงาน VICTAM Asia ปีนี้ เรามุ่งเน้นไปที่ธีมหลักที่ต้องการนำเสนอความก้าวหน้าในเทคโนโลยีการผลิตอาหารสัตว์ และอาหารสัตว์น้ำที่กำลังพัฒนาในภูมิภาคเอเชีย รวมไปถึงเทคโนโลยีล่าสุดในการแปรรูปธัญพืช แป้ง และข้าว ควบคู่ไปกับความคิดริเริ่มด้านความยั่งยืนที่สำคัญ โดยเรามีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้รับเกียรติจาก บริษัท Amandus Kahl, DSM, CSI Group, และ Van Aarsen มาร่วมเป็นผู้จัดแสดงสินค้าในปีนี้”
Mr. Tom Faulkner ผู้จัดการโครงการอาวุโส บริษัท วีเอ็นยู ยุโรป จำกัด ผู้จัดงาน Health & Nutrition Asia กล่าวว่า “VNU Group มีความเชี่ยวชาญอย่างยิ่งในอุตสาหกรรมปศุสัตว์และจัดงานแสดงสินค้าขนาดใหญ่มากมาย ทั้งในเอเชีย และ ต่างทวีป สำหรับงาน Health & Nutrition Asia เป็นงานแสดงสินค้าเดียวที่เราให้ความสำคัญไปที่โปรไฟล์สุขภาพสัตว์ อาหารและโภชนาการของสัตว์ เนื่องจากธุรกิจนี้กำลังมีอัตราการเติบโตที่สูงขึ้นอย่างต่อเนื่องเพราะอาหารและโภชนการเป็นปัจจัยหลักที่ส่งผลต่อสุขภาพสัตว์และคุณภาพของชิ้นเนื้อ การดูแลสุขภาพสัตว์ที่ดีจึงเป็นส่วนสำคัญที่ธุรกิจปศุสัตว์ไม่อาจมองข้าม ซึ่งเราได้รวมผู้ประกอบการด้านนี้มาให้ท่านได้เลือกสรรมากกว่า 250+ บริษัท 400+ แบรนด์ชั้นนำจากนานาประเทศเพื่อเจรจาธุรกิจกันภายในงาน Heath & Nutrition Asia พร้อมคัดสรรหัวข้องานสัมมนาในประเด็นที่น่าสนใจ นำเสนอโดยวิทยากรจากทั้งภาครัฐ สถาบันการศึกษา สถานบันการเงิน และภาคเอกชน เพื่ออัปเดตข่าวสารความรู้ในแวงวงอุตสาหกรรมและขยายเครือข่ายธุรกิจอย่างไม่สิ้นสุด”
นายสราญโรจน์ สุทัศน์ชูโต ผู้อำนวยการฝ่ายบริหาร สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (TCEB) กล่าวว่า “การจัดงานแสดงสินค้าร่วมกันของสองผู้จัดงานชั้นนำในอุตสาหกรรมครั้งนี้ นับเป็นงานที่ตอบโจทย์ในการช่วยส่งเสริมภาพลักษณ์และกระตุ้นความแข็งแกร่งให้กับอุตสาหกรรมงานแสดงสินค้าและงานประชุมสัมมนา หรือ MICE ในประเทศไทยได้อย่างไม่ต้องสงสัย เพื่อสร้างรายได้ภาคการท่องเที่ยวให้กับประเทศโดยตรง การจัดงานแสดงสินค้าครั้งนี้ นับเป็นแพลตฟอร์มขนาดใหญ่สำหรับธุรกิจอาหารสัตว์และสุขภาพสัตว์ที่เป็นส่วนสำคัญสำหรับห่วงโซ่อุปทานปศุสัตว์และความมั่นคงด้านอาหารของโลก เราเชื่อมั่นเป็นอย่างยิ่งว่าการจัดแสดงสินค้าครั้งนี้จะสร้างมาตรฐานสูงสุดสำหรับอุตสาหกรรมในอนาคตอันใกล้ต่อไป”
นายสัตวแพทย์โสภัชย์ ชวาลกุล รองอธิบดีกรมปศุสัตว์ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์กล่าวว่า “ทางกรมปศุสัตว์ขอชื่นชมแนวคิดการจัดงานร่วมกัน ของทั้ง VICTAM Asia และ Health & Nutrition Asia 2024 เพราะการจัดงานแสดงสินค้าระดับใหญ่นี้พร้อมกันทำให้ผู้เข้าร่วมงานได้รับบริการครบจบในสถานที่เดียว นับเป็นการผลักดันให้ประเทศไทยเป็นจุดศูนย์กลางทางด้านเทคโนโลยีด้านการเกษตรและปศุสัตว์ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (อาเซียน) ด้วยโครงสร้างพื้นฐานที่สมบูรณ์และเอื้อต่อการดำเนินธุรกิจ ทำให้ประเทศไทยสามารถนำเสนอโอกาสในการลงทุน การวิจัย และความร่วมมือต่าง ๆ โดยมุ่งเน้นที่จะผลักดันการเจริญเติบโตอย่างยั่งยืนในภาคอุตสาหกรรมเกษตรให้กับทุกฝ่าย รวมไปถึงโอกาสทางด้านการพัฒนาธุรกิจอาหารสัตว์ในประเทศไทยที่ครอบคลุมทั้ง สัตว์ใหญ่ สัตว์ปีก และสัตว์น้ำ ที่ต่างก็มีความพร้อมและโอกาสในการเจริญเติบโต และมีนวัตกรรมสมัยใหม่เข้ามาช่วยพัฒนาภาคธุรกิจอย่างยั่งยืน ในการจัดงานครั้งนี้ ได้แสดงถึงบทบาทอันสำคัญยิ่งของภาคเกษตรกรรมและปศุสัตว์ที่ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ สร้างความมั่นคงทางอาหาร และสนับสนุนเกษตรกรให้ความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น”
คุณนิติพงศ์ เลาหวิศิษฏ์ รักษาการนายกสมาคมอุตสาหกรรมผลิตภัณฑ์สัตว์เลี้ยงไทย กล่าวว่า “ในปีที่ผ่านมาอุตสาหกรรมสัตว์เลี้ยงเติบโตอย่างต่อเนื่องและโดดเด่นเป็นอย่างมาก โดยได้รับแรงสนับสนุนจากจำนวนของผู้เลี้ยงสัตว์ที่เพิ่มมากขึ้น ซึ่งคำนึงถึงสุขภาพและความเป็นอยู่ของสัตว์เป็นอันดับแรก ส่งผลให้ประชากรดังกล่าวต่างมองหาผลิตภัณฑ์คุณภาพสูง หรือสินค้าพรีเมี่ยมมากยิ่งขึ้น โดยงาน VICTAM Asia and Health & Nutrition Asia ถือเป็นแพลตฟอร์มที่มอบโอกาสพิเศษให้กับนักธุรกิจ ผู้เชี่ยวชาญ และผู้ที่มีบทบาทสำคัญในอุตสาหกรรม ได้มาพบปะ แบ่งปันความรู้ โชว์นวัตกรรม และอัปเดตความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีในการผลิตอาหารสัตว์เลี้ยง สุขภาพ โภชนาการ รวมไปถึงการกำหนดอนาคมของอุตสาหกรรมฯ ในฐานะสมาคมฯ มีหน้าที่สนับสนุนและส่งเสริมผู้ประกอบการที่เกี่ยวข้องกับการผลิตและการค้าผลิตภัณฑ์สัตว์เลี้ยง เพื่อส่งเสริมการเติบโตของตลาดในประเทศและสร้างการเชื่อมต่อระดับโลก และเพื่อส่งเสริมประชาสัมพันธ์และช่วยเหลือสมาชิกในการจัดกิจกรรมหรืองานต่าง ๆ อาทิ งานแสดงสินค้านานาชาติภายในประเทศไทย”
สำหรับไฮไลต์สำคัญภายในงาน VICTAM Asia และ Health & Nutrition Asia 2024 มีดังนี้ การนำเสนองานสัมมนาสำหรับผู้ที่สนใจและทำงานในธุรกิจอาหารสัตว์และสุขภาพสัตว์ โดยได้รับความร่วมมือจากผู้เชี่ยวชาญทั้งในประเทศและจากนานาประเทศ อาทิ เรื่อง Modernizing & Exploring the Future of Livestock Feed in 2024 โดย สมาคมผู้ผลิตอาหารสัตว์ไทย, เรื่อง Global Trend of Shrimp Farming Industry โดย สมาคมการค้าปัจจัยการผลิตสัตว์น้ำไทย, เรื่อง Aquafeed Extrusion Conference โดย Perendale Publishers Ltd, เรื่อง Precision Animal Farming and Future Challenges โดย มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์, หัวข้อที่เกี่ยวกับกลยุทธในการสร้างผลผลิตสำหรับอาหารสัตว์ โดย Watt Global Media, หัวข้อที่เกี่ยวกับแมลงและโภชนาการสัตว์แห่งอนาคต โดย สมาคม AFFIA, หัวข้อที่เกี่ยวกับโปรไบโอติก พรีไบโอติก ที่ใช้แทนยาปฏิชีวนะ โดย AFOB and TSB, และหัวข้อจากสถาบันการเงินอย่าง Climate Journey: ขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงร่วมกันเพื่อห่วงโซ่คุณค่าโปรตีนจากสัตว์ โดย UOB นอกจากนี้ยังมีสมาคมและหน่วยงานอื่น ๆ อีกมากมาย อาทิ กรมประมง, สมาคมวิทยาศาสตร์สัตว์ปีกโลก (WPSA), GMP+ International, IFTC, Korean Animal Health Products Association (KAHPA), FAVA-TVMA และสัตวแพทยสมาคมแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ที่พร้อมแบ่งปันความรู้และพูดคุยอภิปรายกับผู้เข้าชมงานทุกท่านเพื่อผลักดันการพัฒนาของภาคปศุสัตว์อย่างยั่งยืนอีกด้วย