กระทรวงเกษตรฯ มุ่งหาแนวทางการป้องกันและแก้ไขปัญหาการเผาในพื้นที่ต้นเหตุทั้งข้าว ข้าวโพด และอ้อย หวังแก้ไขปัญหา PM 2.5
วันที่ 17 พ.ย.66 ร้อยเอก ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการป้องกันและแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็กไม่เกิน 2.5 ไมครอน (PM 2.5) ภาคการเกษตร โดยมี นายประยูร อินสกุล ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ผู้บริหารกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และผู้บริหารกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เข้าร่วม ณ ห้องประชุมกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เพื่อพิจารณาแนวทางการป้องกันและแก้ไขปัญหาการเผาในพื้นที่ต้นเหตุทั้งข้าว ข้าวโพด และอ้อย โดยได้ถอดบทเรียน ปัญหาอุปสรรคจากการดำเนินงานปีที่ผ่านมา และนำมาพิจารณาประกอบการกำหนดแนวทางการดำเนินงานของปีนี้ พร้อมชี้แจงสถานการณ์ปัญหาฝุ่นละออง PM.2.5 ในปัจจุบัน รวมถึงการสรุปสถานการณ์การเผาในพื้นที่การเกษตรทั้งหมด และการดำเนินงานของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ปี 2565/66 ทั้งปัญหาและอุปสรรคของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดูแล
กระทรวงเกษตรฯ วางแนวทางการป้องกันและแก้ปัญหาการเผาในพื้นที่เกษตรกรรม ปี 2566/67 ดำเนินการเชิงรุกผ่านหลักดำเนินการ 3R ประกอบด้วย 1) Re-Habit : ส่งเสริมให้เกษตรกรปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการปลูกพืชเป็นการปลูกแบบไม่เผา ภายใต้มาตรฐาน GAP PM2.5 Free 2) Replace with perennial crops : ส่งเสริมการปรับเปลี่ยนชนิดและวิธีการปลูกพืชบนพื้นที่สูง จากพืชที่ยังใช้ระบบการเผา เช่น ข้าวโพด เป็นไม้ผล ไม้ยืนต้น และ 3) Replace with Alternate crops : ส่งเสริมการปรับเปลี่ยนชนิดและวิธีการปลูกพืชบนพื้นราบ โดยเน้นการจัดการเศษวัสดุเหลือใช้ให้เกิดมูลค่าทางเศรษฐกิจและเป็นประโยชน์ต่อดิน
รวมทั้งที่ประชุมได้มีการมอบหมายให้หน่วยงานในสังกัดดำเนินกิจกรรมต่าง ๆ ประกอบด้วย 1) ป้องปรามการเผา เน้นปรับเปลี่ยนพฤติกรรม โดยมีเป้าหมายเป็นเกษตรกร 28,855 ราย บนพื้นที่ 60,750 ไร่ โดยการจัดกิจกรรมรณรงค์ให้หยุดเผาในพื้นที่เกษตรกรรม ส่งเสริมให้เกษตรกรจัดการเศษวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตรทดแทนการเผา เช่น การไถกลบตอซังหรือเศษซากพืช การสร้างมูลค่าเพิ่มโดยการเปลี่ยนเป็นพลังงานชีวมวล การนำไปทำปุ๋ยอินทรีย์ การเปลี่ยนเป็นพืชอาหารสัตว์และสำรองเสบียงสัตว์ รวมถึงการให้บริการยืมเครื่องจักรกลการเกษตรเพื่อใช้เก็บรวบรวมเศษวัสดุเหลือใช้ในแปลง 2) นำร่องโครงการต้นแบบ การผลิตข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ภายใต้มาตรฐาน GAP PM2.5 Free โดยเป้าหมายเป็นพื้นที่ในเขตจังหวัดเชียงใหม่และพะเยา รวม 2,664 แปลง พื้นที่ 25,162 ไร่ และ 3) งานวิจัยและพัฒนา ศึกษาพฤติกรรมการตัดสินใจเผาวัสดุเหลือใช้ในนาข้าว
สำหรับการลดการเผาในพื้นที่เกษตรกรรมในระยะยาว
ซึ่งจะส่งผลให้ลดปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็กได้อย่างยั่งยืน จะต้องส่งเสริมให้เกษตรกรทำการเกษตรให้ได้รับการรับรองมาตรฐาน GAP PM 2.5 Free
โดยกระทรวงเกษตรฯ
มีนโยบายจะเสนอให้เกษตรกรได้รับสิทธิพิเศษ เป็นค่าตอบแทน หรือ เข้าถึงแหล่งทุนด้วยดอกเบี้ยอัตราพิเศษ
ซึ่งรวมถึงสถาบันเกษตรกรที่รวบรวมผลผลิตที่ไม่เผาด้วย และขอความร่วมมือภาคเอกชนรับซื้อผลผลิตที่ไม่เผาในราคาที่สูงกว่า นอกจากนี้ จะสนับสนุนให้เกษตรกรที่ปรับเปลี่ยนรูปแบบการเพาะปลูกทั้งในพื้นที่สูงและที่ราบ
โดยสนับสนุนเงินทุนช่วงรอเก็บเกี่ยว จัดหาเมล็ดพันธุ์พืชตระกูลถั่วพร้อมทั้งจัดหาตลาดรองรับผลผลิต
ทั้งนี้ ได้กำหนดจัดงาน KICK
OFF การรณรงค์ปลอดการเผาในพื้นที่เกษตร ในช่วงเดือนธันวาคมนี้
ที่จังหวัดเชียงใหม่
นอกจากนี้ ยังได้มีการหารือในการจัดทำข้อตกลงความร่วมมือทางวิชาการระหว่างกระทรวงเกษตรและสหกรณ์กับภาคีวิจัยฟิวเจอร์เอิร์ธแห่งประเทศไทย (Future Earth Thailand Consortium) โดยความร่วมมือระหว่างสถาบันการศึกษาในภูมิภาค 7 แห่ง ได้แก่ ภาคเหนือ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ภาคเหนือตอนล่าง มหาวิทยาลัยนเรศวร ภาคตะวันตก มหาวิทยาลัยมหิดล ภาคตะวันออก มหาวิทยาลัยบูรพา ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มหาวิทยาลัยขอนแก่น และมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี ภาคใต้มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ และสำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (สทอภ.) เพื่อนำไปสู่การแก้ไขปัญหาคุณภาพอากาศจากภาคการเกษตรอย่างยั่งยืนผ่านเครือข่ายวิจัยและนวัตกรรมทั้งระดับชาติและนานาชาติ