รัฐมนตรีเกษตรฯ ประชุมติดตามสถานการณ์น้ำทั่วประเทศ เตรียมมาตรการรับมืออย่างทันท่วงที สนองนโยบายรัฐบาล
ร้อยเอก
ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยภายหลังเป็นประธานการประชุมติดตามสถานการณ์น้ำภาพรวมทั้งประเทศ
โดยมีนายประยูร อินสกุล ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นายประพิศ จันทร์มา
อธิบดีกรมชลประทาน พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเข้าร่วม ณ
ศูนย์ปฏิบัติการน้ำอัจฉริยะ (SWOC) ชั้น 3 อาคาร 99 ปี
ม.ล.ชูชาติ กำภู กรมชลประทาน สามเสน ว่า จากสถานการณ์ปัจจุบันที่สภาพอากาศแปรปรวน
ทำให้เกิดฝนตกหนักและมีพื้นที่ประสบอุทกภัยในหลายจังหวัด
แต่ในบางพื้นที่ยังคงมีฝนตกต่ำกว่าปกติเนื่องมาจากสถานการณ์เอลนีโญ
ประกอบกับช่วงฤดูฝนของภาคเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก
และภาคตะวันตก จะสิ้นสุดประมาณกลางเดือนตุลาคม 2566 นั้น นายกรัฐมนตรีได้ให้ความเป็นห่วงประชาชนและเกษตรกรเกี่ยวกับสถานการณ์น้ำ
จึงได้กำชับให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เตรียมมาตรการรับมือกับสถานการณ์อุทกภัยและบริหารจัดการน้ำทั้งระบบอย่างมีประสิทธิภาพ
เพื่อลดผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นกับประชาชนและเกษตรกรในพื้นที่และทั่วประเทศ
“กระทรวงเกษตรฯ เล็งเห็นแล้วว่าสถานการณ์ดังกล่าวจะส่งผลกระทบต่อประชาชนและภาคเกษตรในวงกว้าง จึงได้ประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเป็นการเร่งด่วน เพื่อเตรียมมาตรการรับมือกับภัยธรรมชาติที่เกิดขึ้นในขณะนี้ และที่กำลังจะเกิดขึ้นตามมา ทั้งอุทกภัย ภัยแล้ง และภัยธรรมชาติอื่น ๆ ตั้งแต่การป้องกัน การเผชิญกับสถานการณ์ และการแก้ไขฟื้นฟูตามนโยบายที่ได้มอบไว้ ทั้งนี้ ได้มอบหมายปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดพร้อมทั้งประชาสัมพันธ์ข้อมูลข่าวสารไปยังประชาชนและเกษตรกรอย่างทั่วถึง เพื่อสร้างการรับรู้ที่ถูกต้องและให้สามารถเตรียมตัวรับมือกับภัยพิบัติได้อย่างทันท่วงที” รัฐมนตรีเกษตรฯ กล่าว
สำหรับสถานการณ์ปัจจุบัน (ข้อมูล ณ 21 ก.ย. 2566) มีพื้นที่ประสบอุทกภัยรวม 18 จังหวัด ได้แก่ จังหวัด อุตรดิตถ์ พิษณุโลก พิจิตร นครสวรรค์ กำแพงเพชร อุดรธานี ขอนแก่น ร้อยเอ็ด ยโสธร อำนาจเจริญ อุบลราชธานี นครพนม จันทบุรี ลพบุรี สระบุรี นครนายก ฉะเชิงเทรา และอ่างทอง ซึ่งกรมชลประทาน โดยสำนักงานชลประทานที่ 4 ได้ให้ความช่วยเหลือผู้ที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมขังในพื้นที่ เร่งดำเนินการติดตั้งเครื่องสูบน้ำ จำนวน 2 เครื่อง บริเวณชุมชนหมู่ 1 ตำบลปากแควและสะพานพระร่วง แม่น้ำยมฝั่งซ้ายในเขตเทศบาลเมืองสุโขทัยธานี อำเภอเมืองสุโขทัย จังหวัดสุโขทัยด้วย