“กรณ์”ชี้ ชาวบ้านเลือกผู้แทน ทุกคะแนนต้องตอบด้วยการทำงาน
กรณ์ จาติกวณิช หัวหน้าพรรคกล้าทโพสต์เปิดใจบนเฟซบุค ว่า การมองตา ยกมือไหว้และขอคะแนนจากชาวบ้าน มีผลทางใจกับตนมาตั้งแต่วันที่ผมเดินขอคะแนนครั้งแรกเมื่อปี 2547 การไหว้เป็นเครื่องเตือนใจเสมอว่าเรามีหน้าที่รับใช้ใคร แม้ในวันที่ตนได้เป็นรัฐมนตรี มีคนคอยยกมือไหว้ ตนก็ไม่เคยลืมว่าได้มาอยู่ตรงนั้นเพราะใคร และเพื่อใคร
“ผมจึงคอยบอกกับน้องๆที่อยากทำงานการเมืองทุกคนว่าอยากให้ทุกคนลงสมัครเป็น สส. (โดยเฉพาะ สส. เขต) เพื่อจะได้ปลูกฝังจิตใต้สำนึกที่จะทำให้เราไม่ลืมตัวในวันที่เรามีตำแหน่งและมีอำนาจ เราได้ตำแหน่งจากใคร โดยธรรมชาติเราก็จะรู้สึกว่าเราต้องตอบแทนผู้นั้น ดังนั้นเราจะเป็นนักการเมืองที่ดีกว่าถ้าตำแหน่งเรามาจากประชาชน แทนที่จะมาจากผู้มีอำนาจที่ ‘แต่งตั้ง’ เรา ซึ่งก็เป็นหนึ่งในหลายสาเหตุที่ผมเชื่อในระบอบประชาธิปไตย เชื่อในการเลือกตั้ง และเกลียดการซื้อเสียง เพราะเมื่อคะแนนเป็นสินค้าที่ซื้อ-ขายได้ ความผูกพันนี้จะคลายลง ไม่นับข้อเท็จจริงว่าคนดีๆที่ไม่ยอมซื้อเสียง หรือคนที่ไม่มีเงินซื้อ จะไม่มีโอกาสได้เข้ามาทำงาน”หัวหน้าพรรคกล้า กล่าว
กรณ์ กล่าวอีกว่า ในช่วงเช้าของวันนี้ (19 มกราคม 2565) ตนกับคุณอรรถวิชช์ไปยืนไหว้ทักทายพี่น้องเขตหลักสี่ที่ขับรถออกจากบ้านไปทำงาน เป็นอีกครั้งหนึ่งที่ทำให้รู้สึกว่า ไม่ว่าจะแพ้หรือชนะทุกคะแนนที่ได้คือหนี้ทางใจที่เราต้องชำระด้วยการทำงานตามความคาดหวังที่ประชาชนมีกับเรา