นายกฯห่วงส่ง รมช.กษ.”ประภัตร”ลงพื้นที่เหนือ “แก้หมูแพง”เตรียมงบกว่า 30,000 ล้าน เป็นทุนให้เกษตรกรรายย่อยกลับมาเลี้ยงสุกรอีกครั้ง
เชียงใหม่ 8 ม.ค. - ที่มหาวิทยาลัยแม่โจ้ จ.เชียงใหม่ นายประภัตร โพธสุธน รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พร้อมคณะ ลงพื้นที่พบปะผู้ว่าราชการจังหวัด หน่วยงานในสังกัดกระทรวงเกษตรฯ 7 จังหวัดภาคเหนือ กลุ่มสุกรรายย่อย และสมาคมผู้เลี้ยงสุกรภาคเหนือ เพื่อติดตามสถานการณ์ราคาเนื้อหมูและรับทราบปัญหาในพื้นที่ หลังจากปัญหาราคาสุกรในประเทศที่ปรับตัวสูงขึ้น และปริมาณการเลี้ยงสุกรขุนในประเทศลดลงในปัจจุบัน เกิดจากหลายปัจจัย เช่น การระบาดของโรคไวรัสโควิด-19 ที่ผ่านมาทำให้ความต้องการบริโภคสุกรลดลง ส่งผลต่อราคาสุกรในตลาดที่ปรับตัวลดลง เกษตรกรจึงมีการลดกำลังการผลิตลง เพื่อให้สมดุลกับความต้องการของตลาด ประกอบกับราคาวัตถุดิบอาหารสัตว์มีการปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้ต้นทุนการผลิตสุกรสูงขึ้นเกษตรกรจึงเลิกเลี้ยงสุกร การระบาดของโรค PRRS ในสุกร และการลดความเสี่ยงการเกิดโรคอหิวาต์แอฟริกาในสุกร (ASF) จึงมีการลดความหนาแน่นการเลี้ยงสุกรและการทำลายสุกรในพื้นที่เสี่ยง ทำให้เกิดผลกระทบต่อผู้บริโภคเป็นอย่างมาก
โดยรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า นายกรัฐมนตรี มีความห่วงใยเกษตรกรผู้เลี้ยงสุกรและผู้บริโภคเป็นอย่างมาก จากปัญหาราคาหมูเพิ่มสูงขึ้นถึง กว่า 200 บาท /กิโลกรัม จึงได้มีการอนุมัติเงินกว่า 30,000 ล้านบาท เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรผู้เลี้ยงสุกรและส่งเสริมให้ผู้เลี้ยงรายย่อยกว่า 180,000 ราย กลับมาเลี้ยงสุกรอีกครั้ง โดยกรมปศุสัตว์ ได้สั่งการเร่งให้ทุกพื้นที่ประเมินระดับความเสี่ยงด้านระบาดวิทยา สัตวแพทย์ เพื่อหาพื้นที่เป้าหมาย และสำรวจความต้องการในการกลับมาเลี้ยงอีกครั้งภายในสิ้นเดือนมกราคมนี้ เพื่อได้ข้อเท็จจริงและให้แต่ละพื้นที่เดินหน้าต่อไปได้ ซึ่งจะมีเจ้าหน้าที่เข้าไปดำเนินการ จัดลำดับความสำคัญและวางแผนการผลิต
ด้านธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์(ธ.ก.ส.) ได้เตรียมมาตรการและสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำเพื่อช่วยเหลือเกษตรกรผู้เลี้ยงสุกร โดยเฉพาะการส่งเสริมให้ผู้เลี้ยงรายย่อยกลับมาฟื้นตัวอีกครั้ง พร้อมเติมทุนแก่เกษตรกรในพื้นที่เป้าหมาย ภายใต้โครงการสานฝันสร้างอาชีพ ยกระดับรายได้เกษตรกร
หลังจากนั้นคณะของรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้ลงพื้นที่ตรวจดูฟาร์มเลี้ยงสุกรในพื้นที่มหาวิทยาลัยแม่โจ้ที่เป็นต้นแบบให้แก่เกษตร พร้อมให้ความมั่นใจกับเกษตรกรที่จะเป็นโอกาสสร้างรายได้รวมทั้งให้นโยบายเจ้าหน้าที่เพื่อติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดด้วย.