เปิดประตูสู่โลกอนาคตกับงานมหกรรม Block Mountain CNX 2025 ก้าวข้ามขีดจำกัดสู่โลก Web3.0 กิจกรรมอัดแน่นทั้งวัน 23-26 มกราคมนี้

เปิดประตูสู่โลกอนาคตกับงาน Block mountain CNX 2025 Spark the future : Explore Web3.0 Experience จัดขึ้นเป็นปีที่ 7 มหกรรมบล็อกเชนที่ใหญ่ที่สุดในภาคเหนือพบโอกาสการ เรียนรู้ สร้างเครือข่ายระดับโลกในแวดวง Bitcoin, Blockchain, และ Disruption Tech รวมผู้เชี่ยว ชาญจากหลากหลาย Community กว่า 100 คน ทั้ง Session และ Panel Discussion อัพเดตเทรนด์ ใหม่ๆ พร้อมกิจกรรมสนุกๆ และเซอร์ไพรส์มากมาย อัดแน่นจุใจ 4 วันรวด 23-26 มกราคมนี้

Block mountain CNX 2025 Spark the future : Explore Web3.0 Experience จัดขึ้นเป็นปีที่ 7 มหกรรม Blockchain ที่ใหญ่ที่สุดในภาคเหนือ งานนี้จัดขึ้นเพื่อแลกเปลี่ยนความรู้ ประสบการณ์ และแนวคิดเกี่ยวกับเทคโนโลยี Blockchain สินทรัพย์ดิจิทัล  และ Disruption Tech รวมถึงการสร้าง โอกาสทางธุรกิจและการลงทุน  ร่วมกับพันธมิตร ได้แก่ สมาคมสินทรัพย์ดิจิทัลไทย, สมาคมเมตาเวิร์สไทย, คริปโตมายด์ กรุ๊ป, Crypto City Connext, GM Learning Club, Right Shift, 9 Cat, Guardian AI Lab  และ SiamDapp จัดเต็ม 4 วัน ระหว่างวันที่ 23-26 มกราคม 2568 ณ One Plaza One Nimman, เชียงใหม่  

พร้อมจุดประกายอนาคตแห่งเทคโนโลยีบล็อกเชนและสินทรัพย์ดิจิทัลอีกครั้ง งานนี้รวบรวมผู้คน ในวงการสินทรัพย์ดิจิทัลไทยทั้งรุ่นเก๋าและหน้าใหม่ เปิดเวทีให้ผู้มีส่วนร่วมในวงการสินทรัพย์ดิจิทัลได้แสดงความคิดเห็น แลกเปลี่ยนมุมมองเกี่ยวกับปัญหาและโอกาสในอุตสาหกรรม พร้อมหาแนวทางการพัฒนาใน อนาคต ถือเป็นการสะท้อนเสียงของคนในวงการผลักดันให้เกิดนโยบายที่เอื้อต่อการเติบโตของสินทรัพย์ ดิจิทัลในประเทศไทย เพื่อให้ทุกภาคส่วนขับเคลื่อนอุตสาหกรรมให้เติบโตอย่างยั่งยืน

ตลอดทั้ง 4 วันเต็มอัดแน่นไปด้วยกิจกรรมจากผู้ประกอบการต่าง ๆ จัดเต็มด้วยช่วงเสวนามากกว่า 50 Sessions รวบรวมผู้เชี่ยวชาญจากหลากหลาย Community กว่า 100 คน ทั้งไทยและต่างประเทศ อัพเดตข้อมูลและความรู้อย่างครอบคลุม ได้แก่ NFT, Digital Art, Immersive Experience , วันแห่งสาวก Bitcoin, Digital Asset, Disruption Technology, Web 3.0 Community Talk

สำหรับภาพรวมตลาดคริปโทฯ ในประเทศไทยปี 2568 คาดว่าเป็นปีที่สดใส ความน่าสนใจเพิ่มสูง ขึ้น เนื่องจากการพัฒนาเทคโนโลยีบล็อกเชนและสินทรัพย์ดิจิทัลอย่างต่อเนื่อง จะนำไปสู่การสร้างสรรค์ ผลิตภัณฑ์และบริการใหม่ ๆ ซึ่งอาจส่งผลให้เกิดการนำไปใช้ในภาคธุรกิจและอุตสาหกรรมต่าง ๆ มากขึ้น ไม่เพียงแค่ด้านการเงินการลงทุนเท่านั้น แต่เทคโนโลยีบล็อกเชนยังนำมาประยุกต์ใช้ในหลากหลาย อุตสาหกรรม เช่น อสังหาริมทรัพย์ การค้าปลีก สร้างโอกาสในการลงทุนที่หลากหลายมากยิ่งขึ้น

อีกทั้ง การบังคับใช้พระราชบัญญัติสกุลเงินดิจิทัลคาดว่าจะส่งผลดีต่อการดำเนินงานของธุรกิจที่ เกี่ยวข้องกับคริปโทฯ ในประเทศไทยอย่างมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องของการขออนุญาตและการกำกับดูแล ซึ่งการมีกฎหมายที่ชัดเจนและเป็นธรรมจะช่วยสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุนและผู้ประกอบ การมากขึ้น

จากความร่วมมือของทุกภาคส่วนที่ร่วมกันพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการที่เกี่ยวข้องกับสินทรัพย์ ดิจิทัลให้มีความหลากหลายและตอบโจทย์ความต้องการของนักลงทุนและผู้ประกอบการมากขึ้น รวมถึง การสร้างมาตรฐานและแนวทางปฏิบัติที่ดีในอุตสาหกรรมสินทรัพย์ดิจิทัล เพื่อให้เกิดความโปร่งใสและ น่าเชื่อถือ เชื่อว่าส่งผลให้ตลาด คริปโทฯ ในประเทศไทยมีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่องในอนาคต