รับมือน้ำท่วม อีกบททดสอบผู้ว่าฯอ่างทอง”พิริยะ ฉันทดิลก”
“แค่นี้ก็มาไกลเกินมากแล้ว”
ผู้ว่าฯหนึ่ง พิริยะ ฉันทดิลก เปรยกับคนใกล้ชิดเมื่อคราวรับตำแหน่งนายอำเภอครั้งแรกที่อ.ภูผาม่าน จ.ขอนแก่นเกือบ 20 ปีที่แล้ว ก่อนที่ชีวิตราชการเติบโตขึ้นเรื่อยมาตามลำดับ
กระทั่งล่าสุดที่ประชุมคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 18 กันยายน 2566 ที่ผ่านมามีมติเห็นชอบแต่งตั้งนายพิริยะ ฉันทดิลกดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดอ่างทอง มีผลตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2566 เป็นต้นไป สร้างความปิติยินดีไม่เฉพาะสมาชิกในครอบครัว คนใกล้ชิด ผู้ใต้บังคับบัญชา ตลอดจนประชาชนในพื้นที่ที่เขา เคยร่วมทำงานด้วย
พิริยะ เป็นบุตรชายคนโตในครอบครัวประกอบอาชีพค้าขายในตลาดสองพี่น้อง จ.สุพรรณบุรีที่พ่อแม่ตั้งใจอยากให้ลูกชายหัวปีคนเดียวนี้มีอาชีพรับราชการ ความที่เป็นเด็กเรียนดี มีบุคลึกเป็นผู้นำ จนได้รับการยอมรับจากเพื่อนร่วมชั้นร่วมรุ่นให้นั่งในตำแหน่งหัวหน้าห้อง หัวหน้าชั้นและประธานรุ่นตลอดมา
หลังจบปริญญาตรีรัฐศาสตร์ จุฬาฯ สาขาการเมืองการปกครอง เขาก็สอบปลัดอำเภอได้สมความตั้งใจ โดยบรรจุปลัดอำเภอครั้งแรกในภาคอีสาน ก่อนย้ายกลับมาจ.สุพรรณบุรีบ้านเกิดในตำแหน่งปลัดอำเภอเดิมบางนางบวช
การมารับตำแหน่งปลัดอำเภอเดิมบางฯในครั้งนั้นถือเป็นจุดเปลี่ยนที่สำคัญทั้งวิถีชีวิตและวิธีงาน หลังได้รับคำแนะนำและเรียนรู้จากผู้บังคับบัญชา นายอำเภอเดิมบางฯในขณะนั้นที่ชื่อ ปู วีระศักดิ์ วิจิตต์แสงศรี
จากเดิมบางฯย้ายมาศรีประจันต์ นายอำเภอปูก็หอบหิ้วเขามาด้วย เนื่องจากเห็นหน่วยก้านดี กอปกับวิธีทำงานคิดเร็ว ทำเร็วช่วยชาวบ้านแบบถึงลูกถึงคน ทำงานเป็นเจ้านายลูกน้องร่วมกันหลายปี ก่อนจะแยกย้ายไปตามวิถีราชการในเวลาต่อมา
ททท.ทำทันที สโลแกนนายเก่า อดีตผู้ว่าฯปู วีระศักดิ์ วิจิต์แสงศรี ที่ผู้ว่าฯหนึ่งพิริยะ ฉันทดิลก ยึดเป็นไอดอลและถือปฏิบัติการทำงานมาโดยตลอดในชีวิตราชการ ควบคู่ไปกับการรู้คน รู้งาน รู้พื้นที่ ซึ่งเป็น 3 สิ่งที่ต้องรู้ทุกครั้ง ไม่ว่าจะย้ายไปไหนอยู่ในตำแหน่งแห่งหนใด
กว่า 30 ปีในชีวิตราชการของเขา ผ่านงานมาอย่างโชกโชนในเกือบทุกตำแหน่งสายงานด้านปกครอง นับตั้งแต่บรรจุเป็นปลัดอำเภอครั้งแรกจ.นครพนม ปลัดอำเภอเดิมบางฯ และปลัดกอำเภอศรีประจันต์ จ.สุพรรณบุรี ก่อนก้าวขึ้นมารั้งตำแหน่งนายอำเภอครั้งแรกที่อ.ภูผาม่าน จ.ขอนแก่น ทำอยู่ประมาณ 10 เดือนก็ย้ายกลับมาสุพรรณฯในตำแหน่งนายอำเภอสามชุก
จากนั้นโยกมาเป็นนายอำเภอบางใหญ่ จ.นนทบุรี ไม่นานก็ไปรับตำแหน่งรองผู้ว่าฯสมุทรสาครและลพบุรีแล้วกลับมานั่งในตำแหน่งรองอธิบดีกรมการปกครอง ก่อนขยับไปเป็นผู้ตรวจราชการกระทรวงมหาดไทยอยู่พักใหญ่ จนในที่สุดได้รับการโปรดเกล้าแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดอ่างทองในวันนี้
ทว่าปัญหาใหญ่กำลังท้าทายผู้ว่าฯอ่างทองในขณะนี้คือการเตรียมป้องกันรับมือน้ำท่วมที่น้ำเหนือกำลังจะมาถึงในอีกไม่กี่วันข้างหน้า หลังฝนถล่มจนน้ำท่วมหนักในหลายจังหวัดทางภาคเหนือ
แม้การบริหารจัดการน้ำ ระดับนโยบายเป็นหน้าที่ของสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ(สทนช.) ซึ่งเป็นการบูรณาการจากหลายหน่วยงาน แต่ในเชิงพื้นที่คงหนีไม่พ้นความรับผิดชอบของพ่อเมือง
“หลังมารับตำแหน่งก็ได้ลงสำรวจพื้นที่เสี่ยงภัยตามจุดต่าง ๆ ทันทีและได้เตรียมพร้อมเครื่องไม้เครื่องมือ กระสอบทรายป้องกันน้ำไว้บางส่วนแล้ว รอการประสานจากหน่วยเหนือมาอีกที”ผู้ว่าฯอ่างทองเผย
อ่างทอง อีกจังหวัดลุ่มเจ้าพระยา มักเจอน้ำท่วมเกือบทุกปี นับเป็นปัญหาใหญ่และกำลังท้าทายผู้ว่าฯป้ายแดงที่ชื่อ”พิริยะ ฉันทดิลก” ผู้ว่าราชการจังหวัดอ่างทอง ณ เพลานี้