เปิดร้าน รอยัล โปรเจค ที เฮาส์ แอนด์ คอฟฟี ณ ศูนย์วิจัยและพัฒนาการเกษตรโครงการหลวง ชนกาธิเบศรดำริ จังหวัดเชียงใหม่
เชียงใหม่ 25 ก.ย.- พลเอกกัมปนาท รุดดิษฐ์ องคมนตรี ประธานกรรมการบริหารมูลนิธิโครงการหลวง เป็นประธานเปิดร้าน รอยัล โปรเจค ที เฮาส์ แอนด์ คอฟฟี ณ ศูนย์วิจัยและพัฒนาการเกษตรโครงการหลวง ชนกาธิเบศรดำริ จังหวัดเชียงใหม่ โดยสถานที่แห่งนี้ถือเป็นร้านชาต้นแบบของโครงการหลวง เพื่อรับรองผู้ที่เข้าไปเพื่อเรียนรู้เรื่องราว และลิ้มลองชา กาแฟเฉพาะถิ่นที่มีความหลากหลายของโครงการหลวง ซึ่งจะเปิดให้บริการทุกวัน ในเวลา 08.00-18.00 น.
ทั้งนี้ ชา เป็นพืชทางเลือกสำคัญอีกพืชหนึ่งที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว องค์นายกกิตติมศักดิ์ของมูลนิธิโครงการหลวง ทรงมีพระราชปณิธานให้สืบสาน รักษา และต่อยอด การพัฒนาให้เกิดประโยชน์อย่างยั่งยืน เป็นไปตามพระราชประสงค์ของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร โครงการหลวงได้ส่งเสริมชา แก่เกษตรกรบนพื้นที่สูงเพื่อทดแทนพืชเสพติด มาตั้งแต่ ปี พ.ศ. 2539 และเพื่อให้การดำเนินงานครบวงจร ตั้งแต่ต้นน้ำ กลางน้ำ จนถึงปลายน้ำ ใบชาจากแปลงผลิตชาของเกษตรกรกว่า 200 ราย ในพื้นที่ศูนย์พัฒนาโครงการหลวง 10 แห่ง จำนวน 2 สายพันธุ์ ได้แก่ สายพันธุ์ชาจีน คือ อู่หลงก้านอ่อน และพันธุ์อู่หลงเบอร์ 12 และสายพันธุ์พื้นเมือง คือ ชาอัสสัม ได้แปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ ชาขาว ชาเขียว ชาอู่หลง ชาแดง และชาดำ ที่คงความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะพื้นที่ มีความหลากหลายของกลิ่นและรสชาติ ให้คุณประโยชน์ที่ดีต่อสุขภาพ โดยไม่มีสารปนเปื้อน เนื่องจากระบบการผลิตที่เป็นธรรมชาติ และไม่ใช้สารเคมี นอกจากนี้ ชายังเป็นพืชสำคัญที่ช่วยรักษาความอุดมสมบูรณ์ของป่าต้นน้ำ โดยภายในร้านรอยัล โปรเจค ที เฮาส์ แอนด์ คอฟฟีนี้ ยังมีมุมกาแฟพิเศษให้บริการ พร้อมของว่างจากวัตถุดิบที่เป็นผลิตผลโครงการหลวง
ในกิจกรรมครั้งนี้ โครงการหลวงยังได้รับความร่วมมือจากเมเจอร์ซีนีเพล็กซ์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) เปิดตัว ป๊อบคอร์นรสผักเคล โดยผักเคล เป็นหนึ่งในพืชที่เป็นผลสำเร็จจากการวิจัยของโครงการหลวง และได้นำไปพัฒนาเป็นผงเคลือบป๊อบคอร์น เป็นการเพิ่มคุณค่าแก่ผลิตภัณฑ์ป๊อบคอร์นของเมเจอร์ซึ่งได้รับความนิยมจากกลุ่มวัยรุ่น สร้างเสริมสุขภาพจากประโยชน์ของผักเคล โดยจะมีวางจำหน่ายหน้าโรงภาพยนตร์เมเจอร์ทุกสาขาทั่วประเทศ และสาขาในต่างประเทศ ถือเป็นความร่วมมือของภาคเอกชนที่สนับสนุนเป้าหมายการช่วยชาวเขา ช่วยชาวเรา และชาวโลก
ช่วงบ่ายของวันเดียวกันนี้ องคมนตรียังได้มอบเกียรติบัตรแก่ผู้ผ่านการคัดเลือก ในโครงการนักออกแบบ จากดอย สู่ดาว จํานวน 14 คน ภายใต้การดำเนินงานของงานส่งเสริมและพัฒนาหัตถกรรมของมูลนิธิโครงการหลวง สนองในพระราชประสงค์ของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ปัจจุบัน มีสตรีและเยาวชนในพื้นที่โครงการหลวงได้รับการส่งเสริมด้านหัตถกรรม 529 ราย พร้อมดำเนินการยกระดับหัตถกรรมภูมิปัญญาท้องถิ่นบนพื้นที่สูงใน 4 ด้าน ได้แก่ การวิจัยนวัตกรรม และพัฒนาเครือข่ายวิชาการ ในการผลิตและแปรรูปกัญชง การศึกษาพันธุ์ไม้ท้องถิ่น 9 ชนิด ในโครงการป่าให้สีที่ศูนย์พัฒนาโครงการหลวงเลอตอ เพื่อนำมาย้อมสีจนได้เส้นใยสีธรรมชาติ จำนวน 25 สี การพัฒนาผลิตภัณฑ์บนพื้นฐานภูมิปัญญา ในกลุ่มเสื้อผ้าเครื่องแต่งกาย กระเป๋า และผลิตภัณฑ์จากเฮมพ์ หรือกัญชง เพื่อต่อยอดเชิงพาณิชย์ การเสริมสร้างเศรษฐกิจครัวเรือนฐานศีลปาชีพ โดยเพิ่มช่องทางการตลาด offline และ online และ การอนุรักษ์ สืบสาน ภูมิปัญญาและเสริมสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืน ผ่านการถ่ายทอดศิลปะหัตถกรรมจากรุ่นสู่รุ่น และจากปราชญ์ผู้รู้สู่เยาวชน และเมื่อวันที่ 16 กันยายนที่ผ่านมา ผลงานเครื่องแต่งกาย และลวดลายผ้าปักชนเผ่า จากงานหัตถกรรมมูลนิธิโครงการหลวง ที่ได้จากการจัดประกวด Ethnic Design contest 2022 ได้ถูกคัดเลือกไปโชว์ในงาน London Fashion Week ณ กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ ซึ่งมีดีไซเนอร์ทั่วโลกร่วมงานกว่า 50 แบรนด์.