4 ทศวรรษ ศูนย์ศึกษาการพัฒนาพิกุลทองฯ เพิ่มอาชีพ ขยายตลาด สร้างรายได้ให้ราษฎร
“ครั้งแรกที่ทำคือสานกระจูดต่อมาก็ผสมผสานกับใบลาน เป็นผลิตภัณฑ์เพื่อใช้สอยแบบหลากหลาย เช่น กระเป๋า กล่องทิชชู ถาดรองแก้ว โดยรูปแบบจะเป็นเอกลักษณ์ท้องถิ่นภาคใต้” นายโสภณ อีแมลอดิง ราษฎรกลุ่มพัฒนาอาชีพบ้านค่าย ต.กะลุวอ อ.เมืองนราธิวาส จ.นราธิวาส กล่าวขณะแนะนำผลิตภัณฑ์ของกลุ่มที่นำมาแสดง และจำหน่ายภายในงาน “ชมศูนย์ศึกษา พัฒนาความรู้ ดูนิทรรศการ” ครั้งที่ 24 ประจำปี 2566 ณ ศูนย์ศึกษาการพัฒนาพิกุลทองอันเนื่องมาจากพระราชดำริ จ.นราธิวาส จัดโดยสำนักงาน กปร. ร่วมกับศูนย์ศึกษาการพัฒนาพิกุลทองอันเนื่องมาจากพระราชดำริ และจังหวัดนราธิวาส โดยมีนายพลากร สุวรรณรัฐ องคมนตรี ประธานกรรมการบริหารโครงการศูนย์ศึกษาการพัฒนาอันเนื่องมาจากพระราชดำริ เป็นประธานเปิดงาน เมื่อวันที่ 7 สิงหาคม 2566 ที่ผ่านมา
นายโสภณ อีแมลอดิง เปิดเผยเพิ่มเติมด้วยว่า ราษฎรในชุมชนที่มีพื้นฐานด้านการจักสานมารวมกลุ่มผลิตโดยใช้เวลาที่ว่างจากการทำงาน ปัจจุบันมีประมาณ 20 คน ทุกคนทำที่บ้านตัวเอง ได้ผลผลิตแล้วนำมารวมวางจำหน่ายที่ร้านในศูนย์ศึกษาการพัฒนาพิกุลทองฯ และส่งไปยังร้านจำหน่ายผลิตภัณฑ์ที่ศูนย์ศึกษาการพัฒนาอื่นๆ ส่วนหนึ่งส่งจำหน่ายที่ร้านภูฟ้า เป็นอีกหนึ่งรายได้ของแต่ละคนที่ใช้เวลาว่างของตัวเองมาทำ ที่ผ่านมาสร้างรายได้ให้กลุ่มฯ กว่า 5 แสนบาทต่อปี
ด้าน นางสายหยุด เพ็ชรสุข ผู้อำนวยการศูนย์ศึกษาการพัฒนาพิกุลทองฯ กล่าวในระหว่างนำองคมนตรีและคณะเยี่ยมชมตลาดจำหน่ายผลผลิตทางการเกษตรภายในงานว่า ศูนย์ได้น้อมนำมหากรุณาธิคุณพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่มีพระราชปณิธานสืบสาน รักษา และต่อยอดโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร
มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ด้วยการน้อมนำแนวพระราชดำริมาพัฒนาอย่างต่อเนื่องกว่า 4 ทศวรรษ ซึ่งศูนย์ศึกษาการพัฒนาเปรียบเสมือน พิพิธภัณฑ์ธรรมชาติที่มีชีวิต มีตัวอย่างความสำเร็จจากการศึกษาและการพัฒนาที่สามารถเสริมสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นของราษฎร และเป็นต้นแบบขยายผลไปยังพื้นที่และชุมชนให้ได้รับประโยชน์สุขโดยทั่วกัน ผลสำเร็จที่เกิดขึ้นเป็นประโยชน์แก่ราษฎรในพื้นที่อย่างทั่วถึงในทุกด้าน ทั้งสิ่งแวดล้อม วิถีทำกิน ช่องทางทำกินและการตลาด ทำให้มีกินมีใช้มีรายได้อย่างต่อเนื่อง
“ได้จัดทำศูนย์รวบรวมและจำหน่ายผลผลิตของราษฎรทั้งจากกลุ่ม และรายบุคคลที่ได้รับการขยายผลจากศูนย์มาวางจำหน่ายที่ร้านภายในศูนย์และตลาดออนไลน์ “พิกุลทองมาร์เก็ต” พร้อมประสานงานกับศูนย์ศึกษาการพัฒนาอื่นๆ ที่มีร้านจำหน่ายผลิตภัณฑ์จากราษฎรขยายผลเพื่อนำสินค้าเหล่านี้ไปวางจำหน่ายด้วย อย่างเช่นที่ศูนย์ศึกษาการพัฒนาห้วยทรายอันเนื่องมาจากพระราชดำริ จังหวัดเพชรบุรี ทำให้ผลผลิตของราษฎรมีช่องทางในการจำหน่าย และผู้บริโภคสามารถเข้าถึงสินค้าเหล่านี้ได้โดยง่ายและมากขึ้น” นางสายหยุด เพ็ชรสุข กล่าว
สำหรับการจัดงาน ชมศูนย์ศึกษา พัฒนาความรู้ ดูนิทรรศการ ครั้งที่ 24 นี้ มีกิจกรรมหลากหลายรูปแบบ ทั้งการจัดแสดงนิทรรศการ ได้แก่ นิทรรศการ “พิกุลทอง ขยายผลองค์ความรู้ สู่การพัฒนาอย่างยั่งยืน” และ นิทรรศการ “เปิดบ้าน…ตามรอยพ่อ” เป็นการจัดแสดงผลงานของหน่วยงานที่ร่วมดำเนินงานภายในศูนย์ เช่น โครงการแกล้งดินตามแนวพระราชดำริ เกษตรทฤษฎีใหม่ในพื้นที่ดินเปรี้ยวจัด ประมงน้ำเปรี้ยวพระราชดำริสู่ความยั่งยืน แลพรุ ชมเสม็ด มนต์เสน่ห์พิกุลทอง ขยายผลองค์ความรู้ตามพระราชดำริ สู่วิถีเกษตรกร ฯลฯ ตลอดจนการเสวนา “ศูนย์ศึกษาการพัฒนาพิกุลทองฯ กับทิศทางการต่อยอดขยายผลการพัฒนา สู่กลุ่มเครือข่าย” การฝึกอบรมส่งเสริมอาชีพทางเลือกสู่ความยั่งยืนโดยการอบรมเชิงปฏิบัติการพร้อมถ่ายทอดสด จำนวน 8 หลักสูตร อาทิ การทำปลาส้ม เงินล้าน การปลูกผักในภาชนะ รวมทั้งการให้ความรู้ในกิจกรรมเกร็ดความรู้รอบตัวด้านการเกษตรและตลาดจำหน่ายผลิตผลทางการเกษตรของเกษตรกรในพื้นที่ขยายผล รวมไปถึงผลิตผลและสินค้าแปรรูปอื่น ๆ จากโครงการฟาร์มตัวอย่างในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง โดยงานจัดขึ้นในระหว่างวันที่ 7-11 สิงหาคม 2566 ที่ผ่านมา ณ ศูนย์ศึกษาการพัฒนาพิกุลทองอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ต.กะลุวอเหนือ อ.เมือง จ.นราธิวาส