รองหัวหน้าพรรค ชพก. เห็นด้วย นโยบายให้ต่างชาติซื้อที่ดิน แต่กลไกรัฐบาลต้องรัดกุม ไม่เอื้อกลุ่มทุนเพื่อนพ้อง วอนฝ่ายคัดค้าน หยุดใช้วาทกรรมขายชาติ แต่ให้ดูที่เหตุผลและข้อเท็จจริง
เมื่อวันที่ 2 พฤศจิกายน 2565 นายวรวุฒิ อุ่นใจ รองหัวหน้าพรรคชาติพัฒนากล้า กล่าวถึงกรณีรัฐบาล มีนโยบายให้ต่างชาติมีสิทธิ์ซื้อที่ดินได้ ว่า กฎกติกาที่ออกมาดูแล้วก็เห็นด้วยเป็นส่วนใหญ่ ยกเว้นที่เงินลงทุนของต่างชาติ1ล้านเหรียญแล้วมีสิทธิซื้อที่ดินได้ 1ไร่ อันนี้ถ้าเป็นตน จะกำหนดขั้นต่ำไว้สัก 2-3 ล้านเหรียญ เพราะคิดว่า ถ้าต่างชาติจะมาซื้อที่ดินในไทย ควรจะมีมูลค่าการลงทุนมากกว่า มูลค่าที่ดินที่จะซื้อสัก 2-3 เท่า ถึงจะเหมาะสม
นายวรวุฒิ กล่าวว่า เรื่องการซื้อที่ดินของต่างชาตินั้น ถ้ากำหนดเงื่อนไขเหมาะสม มันก็เป็นสิ่งที่นานาประเทศเขาก็ทำกันทั้งนั้น เพราะมันเป็นการดูดเงินลงทุน การจ้างงาน และจูงใจให้นักลงทุนที่มีเทคโนโลยี โนฮาวต่าง ๆ เข้ามาลงทุน และถ้ากำหนดเงื่อนไขลงทุนให้มีคนไทยถือหุ้นด้วย ก็ยิ่งดีใหญ่
รองหัวหน้าพรรคชาติพัฒนากล้า กล่าวด้วยว่า บางทีการใช้หลักการหรือนโยบายเรื่องใดเรื่องหนึ่ง แล้วไม่ได้ผล บางทีมันมีความซับซ้อนตรงเงื่อนไขประกอบการใช้อยู่ครับ ที่เรามักไม่พูดถึง ตัวอย่างเช่น ถ้าเราใช้เรื่อง KPI ในการวัดผลทีมหรือบุคคลในการทำงาน แต่เราไม่ใช้เรื่องการสร้าง team spirit เข้ามาเป็นนโยบายประกอบกัน รับรองครับ KPI ที่ใช้วัดผล จะเป็นตัวที่ทำให้ทะเลาะกันเละเทะทั้งหน่วยงานแน่นอน เพราะKPI ดีของหน่วยงานหนึ่ง บางทีมันไปสร้าง KPI ไม่ดีให้กับอีกหน่วยงานหนึ่งได้ ผมจึงย้ำเสมอว่า ถ้าทำเรื่อง KPI ในองค์กรต้องทำเรื่อง team spirit ควบคู่กันไปด้วยเสมอ ไม่งั้นการใช้ KPI วัดผลจะมี side effect ที่ส่งผลเสียจนหลายคนบอกว่า KPI คือตัวทำลายองค์กรและใช้ไม่ได้ผล
“ เราอยู่ในโลกของการแข่งขัน ที่แต่ละประเทศต้องการเงินลงทุน เทคโนโลยีและมันสมองในการพัฒนาประเทศ ประเทศที่จะเจริญก้าวหน้าในโลกอนาคต คือประเทศที่ไม่กีดกันเชื้อชาติและคนคุณภาพเข้าประเทศครับ เราตั้งเงื่อนไขมาก นักลงทุนดี ๆ เค้าก็ไปลงทุนตั้งรกรากที่อื่นเพราะเค้ามีทางเลือก ยิ่งเรากีดกันเราจะได้แต่มาเฟียและมิจฉาชีพมาอยู่โดยใช้นอมินีซื้อที่ และใช้เงินซื้อข้าราชการไทยทำธุรกิจผิดกฎหมาย เรื่องนี้กลไกรัฐต้องดีพอครับ ถึงจะเวิร์ค แต่การจะบอกว่าสนับสนุนรัฐบาลในเรื่องนี้ ผมก็พูดไม่ได้เต็มปาก เพราะกังวลเรื่องการเอื้อประโยชน์พวกพ้องกลุ่มทุน และการทุจริตคอรัปชั่นทำให้ไม่เป็นไปตามเงื่อนไขการใช้สิทธิ์ซื้อที่ดินของชาวต่างชาติ นั่นจะทำให้นโยบายที่ดี กลายเป็นนโยบายไม่ดีไปได้ทันที” นายวรวุฒิ ย้ำ
รองหัวหน้าพรรคชาติพัฒนากล้า กล่าวฝากฝ่ายที่คัดค้านเรื่องนี้ด้วยว่า การใช้วาทกรรมว่ารัฐบาลขายชาตินั้น กรุณาใช้เหตุผลข้อมูล และศึกษานโยบายเรื่องนี้ที่สากลประเทศเขาใช้กัน และออกมาให้ข้อมูลความรู้กับประชาชน ดีกว่าที่จะสร้างวาทกรรมรัฐบาลขายชาติ ให้ประชาชนเกลียดชังรัฐบาลโดยขาดความรู้ความเข้าใจ ประเทศเรา บอบช้ำมากพอแล้วจากอารมณ์เกลียดชังกัน เพราะเราขาดการให้ความรู้ข้อมูลจากผู้มีเหตุผลและมีวุฒิภาวะ ในการให้ความรู้ประชาชน แต่การทำงานการเมืองมุ่งแต่เอาชนะและสร้างอารมณ์เกลียดชังกันในกลุ่มประชาชน แบบนี้ประเทศเรามันไม่ก้าวหน้าไปได้