“พรรคกล้า” ตั้งเป้า พลิกสงขลา ปลุกหาดใหญ่ ฟื้นตลาดกิมหยงเป็นฮับสินค้าภาคใต้
“พรรคกล้า” ตั้งเป้า พลิกสงขลา ปลุกหาดใหญ่ ฟื้นตลาดกิมหยงเป็นฮับสินค้าภาคใต้ ชวนคนไทยกินปลากกะพง 3 น้ำเกาะยอ แทนแซลมอน แนะแปรรูปผลิตภัณฑ์ ขายออนไลน์ ส่งขายทั่วประเทศ
เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา นายวรวุฒิ อุ่นใจ รองหัวหน้าพรรคกล้า หัวหน้าทีมเศรษฐกิจ พร้อมด้วยทีมงาน เดินทางไปยัง จ.สงขลา เพื่อลงพื้นที่ร่วมกับว่าที่ผู้สมัคร สส.พรรคกล้า ได้แก่ ผศ.ดร.ประสิทธิ รัตนพันธ์ ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.เขต 3 และว่าที่ร้อยโทนวกัณฑ์ อุบล ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.เขต 1 เข้าเยี่ยมกลุ่มวิสาหกิจชุมชนรักเกาะยอ อ.เมือง จ.สงขลา ซึ่งมีทั้งชาวประมง วิสาหกิจชุมชน ผู้ประกอบการรายย่อย เพื่อรับฟังปัญหา ร่วมวางแนวทางการตลาดและช่องทางการจำหน่าย
กลุ่มวิสาหกิจชุมชนรักเกาะยอ นำโดยนายสัญญา ลาภวารี ในฐานะประธานกลุ่มฯ และนายจรีวัฒน์ ชุตินธร ตัวแทนกลุ่มฯ ได้พาคณะลงเรือหางยาวชมการเลี้ยงปลากะพงขาวในกระชังทะเลสาบสงขลา รวมถึงระบบบ่อนุบาลตัวอ่อนลูกปลากก่อนนำมาลงเลี้ยงในกระชังจริง จากนั้นได้เข้าเยี่ยมชมผลิตภัณฑ์แปรรูปจากปลากะพงขาวเกาะยอ ของนายอากฤษฎ์ ศศิอังกรู ในฐานะผู้ประกอบการ Arkrit’s Farm ที่ได้แปรรูปผลิตภัณฑ์ปลากะพง จากการขายสด มาตัดแยกชิ้นส่วนแช่แข็ง ที่มีความสดใหม่ มีมาตรฐานระดับห้องปฏิบัติการชั้นนำในประเทศ และเพิ่มความสะดวกต่อการส่งปลากะพงเกาะยอให้กับลูกค้าได้ทั่วประเทศ นอกจากนี้นายอากฤษฏ์ ยังได้นำเสนอเมนูอาหารผลิตภัณฑ์แปรรูปจากปลากะพงขาวเกาะยอ ทั้งสเต็ก สลัด และเมนูอาหารที่มีหน้าตาและรสชาติเท่าเท่าระดับภัตตาคารชั้นนำที่หาชิมได้ที่ จ.สงขลาเท่านั้น
นายวรวุฒิ ในฐานะผู้เชี่ยวชาญด้านการพัฒนาเอสเอ็มอี กล่าวว่า จากการพูดคุยกับกลุ่มวิสาหกิจชุมชนรักเกาะยา ทราบว่า ปลากะพงขาวสามน้ำ เกาะยอ จ.สงขลา ขึ้นชื่อว่า เป็นปลากะพงที่มีเนื้อดี รสชาติอร่อยที่สุด เพราะเป็นปลาที่เลี้ยงในแหล่งน้ำธรรมชาติและมีกระแสน้ำไหลเวียนทำให้ปลาว่ายน้ำออกแรงอยู่ตลอด ที่พิเศษคือแหล่งน้ำที่นั่นมี 3 น้ำคือ น้ำเค็ม น้ำจืด และน้ำกร่อย ทำให้มีแร่ธาตุอุดมสมบูรณ์ โดยปลากะพงสงขลาเลี้ยงด้วยอาหารสด จึงทำให้ปลาที่นี่เนื้อแน่น น้ำหนักเนื้อมาก เนื้อมีความหวานฉ่ำ และเป็นปลามีราคาสูงเนื่องจากตลาดมีความต้องการสูง แต่ช่วงสถานการณ์โควิด ทำให้ส่งขายไม่ได้ การตัดขายแบบตัดชิ้น เลือกแพคเกจที่สามารถเก็บความสดได้โดยไม่ทำให้เสียรสชาติ ทำขายได้หลากหลายเมนู ส่งขายไปตามจังหวัดต่าง ๆ ทั่วประเทศ ระบบขนส่งจึงมีความสำคัญ นอกจากนี้ในระยะยาวสามารถแปรรูปเป็นอาหารแห้งได้หลากหลาย เช่น ปลาเส้นปรุงรส ปลากระป๋อง ข้าวเกรียบ หนังปลาแห้ง ฯลฯ เพราะปลากะพงขาว ทั้งรสชาติและคุณประโยชน์ไม่แพ้ปลาแซลมอลสามารถพัฒนานำมาขายออนไลน์และจัดส่งทั่วประเทศ โดยให้เกาะยอเป็นศูนย์กลางการผลิตและจัดจำหน่าย และในอนาคตเมื่อสถานการณ์โควิดคลี่คลายก็สามารถพัฒนาเพื่อการส่งออกไปต่างประเทศ รวมถึงโปรโมทเป็นแหล่งท่องเที่ยวชิมเมนู ปลากะพงขาว 3 น้ำ ซึ่งมีแห่งเดียวในประเทศไทย
รองหัวหน้าพรรคกล้า ยังได้ลงพื้นที่กลุ่มวิสาหกิจชุมชนบ้านเขากลาย ต.ท่าข้าม อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา เพื่อรับฟังปัญหาให้คำแนะนำปรึกษาหารือแนวทางการตลาด กับกลุ่มผู้ประกอบการแปรรูปมันสำปะหลัง โดยนายวรวุฒิ ได้แนะนำให้หาความต้องการของกลุ่มลูกค้าเป้าหมายใหม่ ๆ โดยการพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้สอดคล้องกับสถานการณ์การตลาดในปัจจุบัน ขายของเท่าเดิมแต่ได้กำไรมากขึ้นในวันที่วัตถุดิบลดน้อยลง
นอกจากนี้นายวรวุฒิ ได้รับเชิญไปบรรยายพิเศษให้กับกลุ่มนักธุรกิจรุ่นใหม่ของ จ.สงขลา ในงาน “Outing YEC Songkhla 2022” โดยช่วงที่เปิดโอกาสให้มีการซักถาม นักธุรกิจรุ่นใหม่ถามถึงเหตุผลของการเข้าร่วมงานพรรคกล้าของนายวรวุฒิ ตลอดจนแนวทางของพรรคที่จะทำให้ จ.สงขลา กลับมาเจริญรุ่งเรือง และเป็นเมืองมรดกโลกในเร็ววัน ซึ่งรองหัวหน้าพรรคกล้า กล่าวว่า ตนทำธุรกิจมา 30 ปี ประสบความสำเร็จจนร่ำรวย ก็เพราะประเทศไทยให้โอกาส นับจากนี้ไปถึงเวลาที่จะใช้หนี้ประเทศ การเปลี่ยนแปลงจะเกิดขึ้นไม่ได้ถ้าไม่เข้าไปเป็นนักการเมืองน้ำดี และมีอำนาจในสภาผู้แทนราษฎร จึงเลือกที่เข้าร่วมงานกับพรรคกล้าเพราะมีอุดมการณ์เดียวกัน โดยส่วนตัวอยากให้นักธุรกิจเข้าไปเล่นการเมืองให้มาก ๆ เราจะละเลยการเมืองไม่ได้ เพราะการแก้ปัญหาเศรษฐกิจต้องมีคนที่รู้จักปฏิบัติจริงเข้าไปแก้ไข
ในส่วนของจ.สงขลา นายวรวุฒิ กล่าวว่า ความจริงควรเจริญกว่านี้ได้อีกมาก เพราะมีทั้งหาดใหญ่ ตลาดกิมหยง ที่เคยเป็นแหล่งรวมสินค้าจากต่างประเทศ ที่ใครก็ต้องมาซื้อของจากที่นี่ แต่ปัจจุบันกลับเงียบเหงา ถ้าพรรคกล้าได้มีโอกาสเข้ามาทำให้ จ.สงขลา ก็จะพลิกฟื้นตลาดกิมหยง ซึ่งทำได้ง่ายกว่าในอดีตเพราะมีการค้าขายออนไลน์ สามารถโปรโมทตลาดกิมหยงไปหาลูกค้า พัฒนาเป็นฮับสินค้าภาคใต้ส่งขายไปยังทั่วประเทศ เป็นการกระตุ้นการบริโภคภายในประเทศได้มหาศาล
“ประเทศไทยเศรษฐกิจสำคัญที่สุด เพราะถ้าเศรษฐกิจดี คุณภาพชีวิตก็จะดี สาธารณูปโภคต่าง ๆ ก็จะดี แต่วันนี้เราจะมีรัฐสวัสดิการดีได้อย่างไรถ้าไม่มีภาษีไปพัฒนา ภาษีมาจากไหน ก็มาจากผู้ประกอบการ ถ้าพวกเขายังไม่รวยจะเอาเงินที่ไหนมาเสียภาษี การกระตุ้นเศรษฐกิจ มันต้องเริ่มที่คนตัวเล็ก วันนี้ผมนึกถึงคำขวัญสมัยก่อนคือ “ไทยทำ ไทยใช้ ไทยเจริญ” แต่ถามว่า บ้านเรา OTOP คนไม่นิยม เพราะดีไซน์ และคุณภาพสินค้า ตลอดจนช่องทางการจัดจำหน่าย ยังไม่ถึงผู้บริโภค ทำให้เขาไม่อยากใช้ เรื่องแบบนี้ รัฐต้องไปช่วยผู้ประกอบการ ขายของออนไลน์คือตำตอบ เพราะจีนก็ทำให้เห็นมาแล้ว ย้อนไปเมื่อ 20 ปีก่อนเขาก็จนเหมือนเรา แต่เขาแก้ปัญหาความยากจนด้วยอีคอมเมิร์ส วันนี้จีนบายพาสไปสู่ประเทศร่ำรวยแล้ว ไทยเองก็ยังมีโอกาส” รองหัวหน้าพรรคกล้า กล่าว