สทนช. จัดเวทีระดมสมอง เร่งทบทวนปรับปรุงแผนแม่บทฯน้ำ สอดรับสถานการณ์ปัจจุบัน เพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน

สทนช. เดินหน้าสร้างความมั่นคงด้านน้ำ เปิดเวทีประชุมระดมสมองทุกภาคส่วน เร่งทบทวนกรอบแนวทางและค่าเป้าหมายแผนแม่บทการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ 20 ปี เพื่อปรับปรุงการจัดทำแผนฯ ให้สอดรับกับสถานการณ์ปัจจุบันและการแก้ไขปัญหาด้านน้ำในเชิงพื้นที่ สู่เป้าหมายการพัฒนาประเทศอย่างยั่งยืน

วันที่ 20 มิ.ย. 65 นายสราวุธ ชีวะประเสริฐ รองเลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) เป็นประธานเปิดการประชุมปฐมนิเทศ “โครงการศึกษาปรับปรุงกรอบแนวทางและค่าเป้าหมายแผนแม่บทการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ 20 ปี” โดยมี ผู้แทนหน่วยงานด้านน้ำ คณะกรรมการลุ่มน้ำทั้ง 22 ลุ่มน้ำ ผู้ทรงคุณวุฒิด้านต่างๆ และอาจารย์ที่ปรึกษาจากจุฬาฯ เข้าร่วมประชุม ณ โรงแรมมิราเคิล แกรนด์ คอนเวนชั่น กรุงเทพฯ สำหรับแผนแม่บทการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ 20 ปี (พ.ศ. 2561 – 2580) ได้มีการดำเนินการมาแล้วในช่วงระยะเวลาหนึ่ง ซึ่งการดำเนินการต้องมีการติดตามประเมินผลอย่างต่อเนื่อง เพื่อนำไปสู่เป้าหมายของการดำเนินการ โดยผลการประเมินในรอบ 5 ปีที่ผ่านมา พบว่า มีบางกลยุทธ์/แผนงานที่ยังไม่มีการดำเนินงานอย่างเป็นรูปธรรมและยังไม่มีการขับเคลื่อน นอกจากนี้บางกลยุทธ์ควรต้องมีการปรับปรุงแผนงาน เนื่องจากสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็วในช่วงระยะ 5 ปีที่ผ่านมา ทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม สิ่งแวดล้อม เช่น สถานการณ์ของโรคโควิด-19 ทำให้แรงงานคืนถิ่น นำไปสู่ความต้องการใช้น้ำที่เพิ่มมากขึ้น ทั้งน้ำกินน้ำใช้และน้ำเพื่อการเกษตรเพื่อสร้างรายได้ ภาวะสงครามที่ทำให้เกิดวิกฤตอาหารโลก นำไปสู่ความต้องการพืชอาหารบางประเภทและการใช้น้ำที่มากขึ้นในบางพื้นที่ และการเปลี่ยนแปลง
สภาพภูมิอากาศที่ส่งผลกระทบต่อการบริหารจัดการน้ำและภัยธรรมชาติ ทำให้เกิดภัยพิบัติที่รุนแรงขึ้น ทั้งอุทกภัย ภัยแล้ง และการรุกตัวของน้ำเค็ม เป็นต้น ซึ่งปัจจัยเหล่านี้ยังไม่ได้บรรจุในแผนแม่บทฯน้ำ 20 ปีเดิม จึงเป็นที่มาของการปรับปรุงแผนใหม่ให้สามารถรับมือกับการเปลี่ยนแปลงของโลกและประเทศไทยในครั้งนี้

รองเลขาธิการ สทนช. กล่าวต่อว่า กระบวนการปรับปรุงกรอบแนวทางและค่าเป้าหมายแผนแม่บทฯน้ำ 20 ปี ในครั้งนี้ เน้นกระบวนการ co-design และการมีส่วนร่วมจากทุกภาคส่วน ทั้งหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาชน โดยจะมีจัดการประชุมของหน่วยงาน 20 ครั้งและระดมความคิดเห็นของประชาชนในระดับพื้นที่ จำนวน 7 ครั้ง เพื่อให้ครอบคลุมทั้งประเทศ ได้แก่ ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ภาคตะวันออก ภาคกลาง ภาคใต้ตอนบน และภาคใต้ตอนล่าง เพื่อให้ประชาชนและคณะกรรมการลุ่มน้ำสามารถแสดงความคิดเห็นในการประชุมและในระบบออนไลน์ เพื่อให้การปรับแผนแม่บทฯน้ำในครั้งนี้ สามารถตอบโจทย์ความต้องการของประชาชนในพื้นที่ได้อย่างแท้จริง หน่วยงานที่เกี่ยวข้องสามารถนำไปดำเนินการขับเคลื่อนสู่แผนปฏิบัติได้อย่างมีประสิทธิภาพ นำไปสู่การแก้ไขปัญหาด้านน้ำในภาพรวมของประเทศ เพื่อให้ประชาชนมีสุขภาพที่ดีขึ้นจากการอุปโภคบริโภคน้ำสะอาด มีน้ำใช้สร้างรายได้ ลดความเสียหายจากภัยพิบัติด้านน้ำ
เพื่อการพัฒนาประเทศที่มั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืนต่อไป.