สธ ดัน ประชุมวิชาการกัญชาทางการแพทย์ครั้งที่ 1 ยิ่งใหญ่ครอบคลุม 12 เขตสุขภาพ ดีเดย์ 4 มีนาคม 2565
ในการประชุมคณะกรรมการขับเคลื่อนกัญชาทางการแพทย์ วานนี้ ( 7 กุมภาพันธ์ 2565) น. นพ.ภูวเดช สุระโคตร ผู้ช่วยปลัดกระทรวงสาธารณสุข ได้ให้ข้อมูลต่อที่ประชุมที่มีผู้บริหารกระทรวงสาธารณสุขและเขตสุขภาพเกี่ยวกับการจัดประชุมวิชาการกัญชาทางการแพทย์ครั้งที่ 1 ว่า “กระทรวงสาธารณสุขมีภารกิจในการให้บริการสุขภาพด้านส่งเสริมสุขภาพ ป้องกัน รักษาโรคและฟื้นฟูสภาพ โดยที่ผ่านมากัญชาทางการแพทย์เป็นแผนบริการสุขภาพ สาขาหนึ่งของกระทรวง ด้วยหลักการของ ประมวลกฏหมายยาเสพติดในด้านการแพทย์ ที่ทำให้การปลูก ผลิต และใช้กับผู้ป่วยนั้นอยู่ในความดูแลของกระทรวงสาธารณสุขและภาคีเครือข่าย ประสบการณ์การทำงานที่สั่งสมของกระทรวงจึงมีอย่างครอบคลุมทั้งห่วงโซ่อุปทาน
นพ.ภูวเดช กล่าวว่า จากประสบการณ์ของกระทรวงเองนั้นพบว่ายากัญชามีประโยชน์ต่อผู้ป่วยหลายกลุ่ม โดยส่วนของยาแผนปัจจุบันซึ่งเป็นยาสารสกัดเข้มข้นมีประโยชน์กับผู้ป่วยในโรคที่ไม่ตอบสนองต่อการรักษาด้วยยามาตรฐาน เช่น ลมชัก ปวดปลายประสาท และการรักษาแบบประคับประคอง ส่วนยาแผนไทยนั้นมีประโยชน์ในโรคหรืออาการเจ็บป่วยที่พบบ่อย เช่น อาการนอนไม่หลับ ปวด โดยในช่วง 2 ปีที่นำกัญชามาใช้ทางการแพทย์ พบว่าในแต่ละเขตสุขภาพมีการพัฒนาองค์ความรู้และนวัตกรรมมมากมาย เช่น การพัฒนาคลินิกกัญชารูปแบบปกติใหม่ การท่องเที่ยวเชิงสุขภาพด้วยกัญชา ซึ่งหากพิจารณาจากข้อมูลที่สถานพยาบาลรายงานเข้าสู่ระบบทำให้เห็นแนวโน้มว่ากัญชาสามารถสร้างสุขภาพควบคู่เศรษฐกิจได้ หากมีการสนับสนุนอย่างถูกจุด
“จึงได้มีการหารือกับเขตสุขภาพ และสถาบันกัญชาทางการแพทย์ และเห็นว่าควรมีการจัดประชุมวิชาการกัญชาทางการแพทย์ครั้งที่ 1 โดยกระจายการจัดงานในทุกเขตสุขภาพ และจะจัดงานในลักษณะเดียวกันต่อเนื่องทุกปี” นพ.ภูวเดช กล่าว
นพ.ภูวเดช กล่าวต่อว่า การจัดงานมีกลุ่มเป้าหมาย 3 กลุ่มได้แก่ ผู้ป่วย ประชาชนทั่วไปและผู้ประกอบการ จะประกอบด้วยสามส่วน คือ การประชุมวิชาการความก้าวหน้ากัญชาทางการแพทย์ คลินิกกัญชาบูรณาการ และมหกรรมกัญชากัญชง โดยจะมีการทำงานร่วมกันระหว่างส่วนกลางและเขตสุขภาพ ในการกำหนดธีมงาน และรายละเอียดของงานร่วมกัน โดยกำหนดจัดที่แรกในเขตสุขภาพที่ 9 ที่จังหวัดสุรินทร์ ในวันที่ 4-6 มีนาคม 2565 และจะขยายครอบคลุมทุกเขตสุขภาพ โดยสถาบันกัญชาทางการแพทย์จะรับหน้าที่เป็นผู้ประสานงานหลักในส่วนกลาง และจะสื่อสารกับกลุ่มเป้าหมายอีกครั้ง