14 ม.ค.วันอนุรักษ์ทรัพยากรป่าไม้ของชาติ “วราวุธ” ขึ้นแม่สอด ติดตามงานโครงการสร้างป่า สร้างรายได้ ตั้งเป้า ปี 65 เพิ่มอีก 4 พันไร่
รมว.ทส. “วราวุธ ศิลปอาชา” ตอกย้ำความสำคัญ “วันอนุรักษ์ทรัพยากรป่าไม้ของชาติ” 14 ม.ค.ของทุกปี ขึ้นป่าแม่สอด เมืองตาก ติดตามงานฟื้นฟูและอนุรักษ์ของกรมป่าไม้ พอใจโครงการสร้างป่า สร้างรายได้ ตามพระราชดำริ พร้อมตั้งเป้าปี 65 เพิ่มอีก 4 พันไร่
วันที่ 14 ม.ค. 65 นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม พร้อมด้วยนายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม พร้อมคณะ ได้เดินทางลงพื้นที่จังหวัดตาก เพื่อติดตามและตรวจเยี่ยมการดำเนินงาน เนื่องในวันอนุรักษ์ทรัพยากรป่าไม้ของชาติ ภายใต้โครงการส่งเสริมการเรียนรู้เพื่อการอนุรักษ์และฟื้นฟูสิ่งแวดล้อมอันเนื่องมาจากพระราชดำริที่อำเภอแม่สอด จังหวัดตาก
ทั้งนี้ นายวราวุธ เปิดเผยว่า จากเมื่อวันที่ 14 มกราคม 2532 พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ทรงลงพระปรมาภิไธยในพระราชกำหนดแก้ไขเพิ่มเติมพ.ร.บ.ป่าไม้พุทธศักราช 2484 และพระราชกำหนดแก้ไขเพิ่มเติมพ.ร.บ.อุทยานแห่งชาติพ.ศ.2504 พระราชกำหนดดังกล่าวได้ให้อำนาจรัฐมนตรีฯโดยความเห็นชอบของคณะรัฐมนตรีมีอำนาจสั่งการให้สัมปทานป่าไม้สิ้นสุดลงทั้งแปลงได้อันเนื่องมาจากอุทกภัยภาคใต้ที่เกิดขึ้นเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2531 โดยเฉพาะที่ตำบลกระทูนอำเภอพิปูน จังหวัดนครศรีธรรมราช โดยพิจารณาแล้วเห็นว่าภัยธรรมชาติที่เกิดขึ้นเป็นส่วนหนึ่งมาจากสาเหตุการลักลอบตัดไม้ทำลายป่าจำเป็นต้องทำการรณรงค์ต่อเนื่องและระยะยาวให้ประชาชนได้เข้าใจและให้ความสำคัญในการอนุรักษ์ทรัพยากรป่าไม้โดยสร้างจิตสำนึกให้กับประชาชนเกี่ยวกับอันตรายที่อาจเกิดขึ้นจากการตัดไม้ทำลายป่า จึงอนุมัติให้กำหนดวันที่ 14 มกราคมของทุกปีเป็น “วันอนุรักษ์ทรัพยากรป่าไม้ของชาติ”
“ ด้วยป่าไม้เป็นทรัพยากรที่สำคัญของชาติให้ประโยชน์ทั้งทางตรงและทางอ้อมแก่ประชาชน ดังนั้นกรมป่าไม้ จึงมุ่งส่งเสริมให้เกิดการฟื้นฟูป่าต้นน้ำลำธารที่ถูกทำลาย ด้วยการสร้างจิตสำนึกด้วยกระบวนการศึกษาแก่ประชาชนให้ร่วมฟื้นฟูป่า เป็นผู้รักษาป่า และอยู่กับป่าอย่างกลมกลืนแบบมีส่วนร่วม รวมทั้งการพัฒนาคุณภาพชีวิตให้แก่ประชาชนตามหลักเศรษฐกิจพอเพียง โดยดำเนินการในรูปแบบผสมผสานเชิงสหวิชาการที่ต้องใช้หลักวิชาการบูรณาการร่วมกัน ทั้งความรู้ด้านป่าไม้ การเกษตร หลักเศรษฐศาสตร์ และหลักกฎหมาย โดยใช้กระบวนการเรียนรู้เป็นกลไกขับเคลื่อนงาน โดยหนึ่งในโครงการที่สำคัญได้แก่ โครงการสร้างป่า สร้างรายได้ ตามพระราชดำริสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารีในพื้นที่จังหวัดตาก”
รมว.ทส. กล่าวอีกว่า โครงการสร้างป่า สร้างรายได้ ตามพระราชดำริสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารีในพื้นที่จังหวัดตาก กรมป่าไม้โดยสำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 4 (ตาก) ได้ขับเคลื่อนร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง มาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2559 ถึง ปี พ.ศ. 2564 ทั้งสิ้นจำนวน 43 โครงการ ปัจจุบันได้ดำเนินการในพื้นที่ 7 อำเภอ ได้แก่ อำเภอท่าสองยาง อำเภอแม่ระมาด อำเภอแม่สอด อำเภอพบพระ อำเภออุ้มผาง อำเภอบ้านตาก และอำเภอเมืองตาก มีสมาชิกเข้าร่วมโครงการฯ รวม 6,028 คน มีพื้นที่เข้าร่วมโครงการฯ 24,400 ไร่ และในปี พ.ศ. 2565 กรมป่าไม้ ได้ตั้งเป้าหมายขยายพื้นที่ดำเนินโครงการสร้างป่า สร้างรายได้ฯจังหวัดตาก จำนวน 4,000 ไร่
“ ในการตรวจเยี่ยมครั้งนี้ ได้เน้นย้ำกับเจ้าหน้าที่ทุกคนของกรมป่าไม้ ต้องให้ความสำคัญกับการพัฒนาและปรับปรุงแนวทางการดำเนินงานที่มุ่งเน้นการเพิ่มพื้นที่สีเขียวให้กับประเทศ ตามยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี มุ่งเน้นการสร้างความสมดุลระหว่างการอนุรักษ์และพัฒนาให้เกิดประโยชน์สูงสุด” นายวราวุธกล่าวทิ้งท้าย